
จากเจ้าของธุรกิจที่ยิ่งโตยิ่งเหนื่อย ธุรกิจที่ไร้ระบบ สู่การบริหารธุรกิจที่สร้างกำไรและมองเห็นอนาคตที่ดีขึ้น
IMPACT STORY I CASE STUDY
THE CHALLENGE
ความท้าทายและปัญหาที่เจ้าของธุรกิจ E-Commerce ต้องเผชิญ
เจ้าของร้านเสื้อผ้าออนไลน์ ที่มียอดขายโตขึ้น 300% ในเวลา 2 ปี จากการเติบโตของธุรกิจที่เร็วเกินกว่าที่คาดคิด ทำให้ต้องเจอปัญหาที่หลากหลาย ซับซ้อนจนเกินกำลังที่จะแก้ไข
ประสบปัญหากำไรลดลงทุกปี และหายไปมากกว่า 20% ในปีล่าสุด ทุกคนในทีมทำงานหนักมากขึ้น แต่ปัญหาต่าง ๆ ก็ดูเหมือนว่าไม่ดีขึ้นเลย
เป้าหมายคือต้องการแก้ปัญหาขาดทุนกำไร เพิ่มสภาพคล่อง และ ความวุ่นวายจากการทำงานที่ไร้ระบบ
เราเข้าใจถึงความกดดันที่เจ้าของธุรกิจต้องแบกรับ
1. ทำงานที่หนักขึ้น แต่กำไรลดลง: คุณใช้เวลาและพลังงานทั้งหมดไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่กลับพบว่ารายได้และกำไรไม่ได้เติบโตตามเป้าที่คาดหวังไว้
2. สินค้าที่ค้างสต็อก ทุนจม: เงินถูกฟรีซไว้กับสินค้าที่ขายไม่ออก เสียหาย หรือ หมดอายุ
3. ความเครียดรอบด้านที่ต้องแบกรับ: ในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณต้องรับผิดชอบทุกปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กร จนอาจทำให้ไม่มีเวลาไปคิดกลยุทธ์เพื่อการเติบโต หรือเวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อน

WHAT WE FOUND
เมื่อธุรกิจโตเร็วเกินกว่าที ่คาดคิด แบบไม่มีแผนการรับมือล่วงหน้า ตัวเลขรายรับ, กำไร และค่าใช้จ่ายจึงไม่ตรงกับความรู้สึกเหนื่อยที่ทุ่มเทไป
1. ปัญหาระบบจัดการสต๊อกที่ยังไม่เหมาะสม มีของค้างโกดัง ทั้งที่ตกรุ่น ทั้งที่มีตำหนิ
2. มีสินค้าที่สั่งมาแล้วไม่มีคุณภาพ หลุดQC หรือโดนยัดไส้จากโรงงานปริมาณสูง จะทิ้งก็เสียดาย จะขายก็ขายไม่ออก
3. เงินค่า Ads ที่ไม่สร้างยอดขายจริง ๆ เยอะขึ้น เพราะทีมงานบางคนลืมแล้วปล่อยไหล
4. บางครั้งงานล่าช้า เสียเวลาไปกับเวลาไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งบางปัญหาก็ใช้นานเกินจำเป็น
5. การตัดสินใจที่ล่าช้า มีทีมงานเกือบ 50 คน แต่การตัดสินใจทุกอย่างต้องถามเจ้าของก่อนแล้วทีมงานค่อยตัดสินใจ
6. ปัญหาอื่นๆ เช่น พนักงานแพ็คของผิด หรือทำงานพลาดเพราะความเข้าใจผิด
THE APPROACH
SUST FRAMWORK
กลยุทธ์ในการแก้ปัญหา
SEE
1. วิเคราะห์ขั้นตอนในการทำงาน เพื่อหาต้นตอของปัญหาและต้นทุนแฝงที่ซ่อนอยู่
UNDERSTAND
1. รวบรวมทุกปัญหาพบเจอ แยกประเภท และจัดลำดับความรุนแรง
2. ทำความเข้าใจต้นตอที่แท้จริงของแต่ละปัญหาด้วย วิเคราะห์ด้วย Root Cause Analysis Tools
3. วิเคราะห์ผลกระทบในทุกแง่มุม ทั้งค่าใช้จ่าย, เวลา และแรงงานคน
SOLVE
1. ออกแบบโซลูชั่นที่เหมาะสมกับแต่ละปัญหาโดยเฉพาะ เช่น
1.1. ตั้งรหัสสินค้าแทนการเรียกชื่อรุ่นที่ทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
3.สร้างคู่มือการทำงานที่จำเป็นของทีม Ads และคู่มือการเช็ครหัสสินค้า
4. ดูข้อมูลย้อนหลัง เพื่อทำความเข้าใจว่าสินค้าไหนกำไรดี เพื่อปรับการสั่งซื้อให้เหมาะสม
TRANSFORM
1. เริ่มทดลองใช้งานโซลูชั่นใหม่ วางระบบการทำงานและปรับปรุงการสื่อสารภายในทีมและระหว่างทีม พร้อมติดตามผลลัพธ์
2. สรุปผลลัพธ์ Best Practices และสิ่งที่ต้องปรับปรุง
3. สร้างมาตรฐานการทำงานใหม่เพื่อให้ระบบที่ปรับปรุงแล้วยังคงมีประสิทธิภาพในระยะยาว

THE IMPACT
การเปลี่ยนแปลงจากสร้างระบบการทำงาน ลดความผิดพลาด และแก้ปัญหาต้นแฝงในธุรกิจ เปลี่ยนเรื่องที่เหนื่อยใจ ให้เป็นเรื่องของการเติบโตได้สำเร็จ
-
ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น เงินค่าเทส Ads ที่ลืมปิดออกไปได้ เริ่มเห็นตัวเลขกำไรกลับมา
-
มีเงินหมุนเวียนคล่องตัวดีขึ้น จากการลดปริมาณสต๊อกสินค้าที่ไม่ทำกำไรในโกดัง
-
ประสิทธิภาพโดยรวมของทีมงานดีขึ้น หัวหน้าแต่ละทีมกล้าตัดสินใจมากขึ้น งานบางส่วนเริ่มเดินเองได้โโยไม่ต้องรอเจ้าของสั่ง
-
ได้ขยายช่องทางการขายใหม่เพิ่มขึ้น
-
เจ้าของมีเวลาสำหรับเรื่องสำคัญอื่น ๆ มากขึ้น เพราะไม่ต้องคอยแก้ปัญหาซ้ำซากทุกวัน
KEY TAKEAWAYS
แก่นแท้ความสำเร็จและกลยุทธ์ที่เจ้าของธุรกิจนำไปใช้ได้จริง
1. ต้นทุนแฝงคือศัตรูที่มองไม่เห็น: ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดมักซ่อนอยู่ในงานที่ทำ ๆ กันจนเคยชิน เพราะมองข้ามไปง่าย ๆ แต่พอรวมกันแล้วกลายเป็นเงินก้อนใหญ่
2. ทุกการปรับปรุงต้องเริ่มจากข้อมูล: การแก้ปัญหาอย่างตรงจุดต้องเริ่มต้นจากข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะ "สิ่งที่เราวัดผลไม่ได้ ก็ไม่สามารถปรับปรุงได้"
3. ลงทุนในระบบก่อนลงทุนในเทคโนโลยี: อย่าคิดว่าการซื้อเทคโนโลยีราคาแพงมาใช้เพียงอย่างเดียว จะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด "การปรับระบบการทำงานให้ดีคือรากฐานที่สำคัญที่สุด"