
เปลี่ยนโรงงานที่อัตราส่งมอบสินค้าช้าถึง 90% สู่ความสำเร็จในการลดต้นทุน และเพิ่มคุณภาพการผลิต
IMPACT STORY I CASE STUDY
THE CHALLENGE
ความท้าทาย และปัญหาที่เจ้าของโรงงานกำลังเผชิญ
โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ในจังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้โปรเจ็คใหม่ มีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นมูลค่าหลายสิบล้านต่อปี
ดูเหมือนจะเป็นข่าวดี แต่สิ่งที่กำลังเผชิญคืออัตราของเสียสูง ส่งมอบล่าช้า โดนลูกค้าเคลม และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจนเสี่ยงขาดทุน
เจ้าของและผู้บริหารต้องการแก้ไขวิกฤติที่โรงงานกำลังเจอ เพื่อหยุดความเสียหายทางธุรกิจและกลับมาสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า
เป้าหมายคือการเป็นโรงงานที่ผลิตสิ้นค้าให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนด และเพิ่มคุณภาพการผลิต ให้พร้อมรับมือกับการเติบโตในอนาคต
เราเข้าใจถึงความกดดันที่โรงงานต้องแบกรับว่าหนักแค่ไหน
1. ความสูญเสียที่ไม่ใช่แค่ตัวเลข: คุณไม่ได้เสียแค่เงิน แต่ยังเสียโอกาสทางธุรกิจ และความเชื่อมั่นจากลูกค ้าจากการส่งมอบล่าช้า และการได้รับสินค้าไม่ได้คุณภาพ
2. ความเหนื่อยล้าของทีมงาน: พนักงานต้องเจอกับปัญหาเดิม ๆ ซ้ำซาก ทำให้ขวัญกำลังใจในการทำงานลดลง และหลาย ๆ ครั้งก็ยากที่จะรักษาพนักงานที่มีฝีมือเอาไว้
3. การมองไม่เห็นทางออก: เมื่อหลาย ๆ ปัญหาถาโถมเข้ามาพร้อมกัน จนคุณไม่รู้จะเริ่มต้นแก้จากตรงไหนก่อนดี ดูเหมือนว่าทุกปัญหาเร่งด่วนไปหมด ทำให้ธุรกิจของคุณหยุดนิ่ง ไม่โต และแพ้คู่แข่ง

WHAT WE FOUND
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เครื่องจักร แต่อยู่ที่ "ระบบการทำงานที่ไม่รองรับการเติบโต"
1. ความไม่เข้าใจในมาตรฐานคุณภาพของลูกค้า
2. วิธีการทำงานแบบผิด ๆ ตามความเคยชิน
3. ทีมงานส่งต่อความผิดพลาดกันรุ่นต่อรุ่นจากการสอนงาน
4. การไม่มีระบบติดตามปัญหา ทำให้ไม่รู้ Root Cause ที่แท้จริง จึงไม่ได้ป้องกันซ้ำซ้อนในอนาคต
5. ไม่มีระบบตรวจสอบคุณภาพระหว่างกระบวนการ (In-process QC) ที่ครบถ้วน ทำให้ของเสียถูกส่งต่อไป
THE APPROACH
SUST FRAMWORK
กลยุทธ์ในการแก้ปัญหา
SEE
1. วิเคราะห์เจาะลึกเพื่อทำความเข้าใจปัญหาในโรงงานอย่างละเอียด
2. ลงพื้นที่เพื่อสังเกต และวิเคราะห์การทำงานในทุกขั้นตอน
UNDERSTAND
1. รวบรวมทุกปัญหา และจัดลำดับความรุนแรง
2. ผู้เชี่ยวชาญจะยื่นขอข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจต้นตอที่แท้จริงของปัญหา
3. เข้าใจต้นตอที่แท้จริง และวิเคราะห์ด้วย Root Cause Analysis Tools
SOLVE
1. ออกแบบโซลูชั่นที่เหมาะสม ที่ตอบโจทย์แต่ละปัญหาโดยเฉพาะ พร้อมเครื่องมือ และแนวทางปฏิบัตรสำหรับการนำไปใช้จริง
2. กำหนดผู้รับผิดชอบแต่ละกลุ่มปัญหา เพื่อให้สามารถติดตามผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
TRANSFORM
1. เริ่มทดลองใช้งานโซลูชั่นใหม่ ให้ความรู้พนักงานที่เกี่ยวข้อง และติดตามผลลัพธ์
2. สรุปผลลัพธ์ Best Practices และสิ่งที่ต้องปรับปรุง
3. สร้างมาตรฐานการทำงานใหม่เพื่อให้ระบบที่ปรับปรุงแล้วยังคงมีประสิทธิภาพในระยะยาว

THE IMPACT
การเปลี่ยนแปลงจากวางระบบการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับทุกด้านของธุรกิจ นำไปสู่การเติบโตในอนาคต และโอกาสใหม่ ๆ ที่สำคัญ
-
ส่งมอบสินค้าได้ตรงเวลามากขึ้นในระดับที่น่าพอใจสำหรับลูกค้า
-
ผลิตสินค้าได้ตรงตามมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนด ที่ระดับคุณภาพสูงขึ้นกว่า 90%
-
ลดปริมาณของเสียในการผลิตที่สูงกว่ามาตรฐานลงอย่างมีนัยสำคัญ
-
ประสิทธิภาพโดยรวมของกระบวนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น แม้ใช้ทรัพยากรเท่าเดิม
-
ประหยัดต้นทุนธุรกิจหลายล้านบาท
-
ทีมงานที่มีศักยภาพ และพร้อมรองรับธุรกิจที่เติบโตไปข้างหน้า
KEY TAKEAWAYS
แก่นแท้ของความสำเร็จและกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริง
1. เปลี่ยนวิธีคิดก่อน เปลี่ยนระบบ: การเปลี่ยนแปงไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนเริ่มต้นจากการเปลี่ยนทัศนคติ จาก "ทำแบบนี้มานานแล้ว" สู่ "การมองหาโอกาสในการพัฒนา" อย่างต่อเนื่อง
2. สร้างระบบป้องกัน ดีกว่าแก้ปัญหา: การแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ เรียนรู้ความผิดพลาดแล้วสร้างระบบป้องกันไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและทรัพยากรมากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ
3. แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ครบวงจร: ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้มาจากการแก้ปัญหาทีละส่วน แต่มาจากการวางรากฐานที่แข็งแกร่งและเดินไปข้างหน้าอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมาย